โดยทั่วไปแล้วยาปฏิชีวนะฆ่าแบคทีเรีย หรือทำให้มันอ่อนแอลง เพื่อให้ร่างกายของเราสามารถกำจัดแบคทีเรียนั้นได้ อย่างไรก็ดีแบคทีเรียสามารถพัฒนาตนเองให้มีความสามารถดื้อต่อยาปฏิชีวนะได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม
การดื้อยาปฏิชีวนะไม่ใช่การร่างกายคนเราที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ ทำให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะไม่ได้ผล แต่เป็นเพราะตัวเชื้อที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ ทำให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะนั้นๆ ไม่ได้ผล
ถ้าคุณติดเชื้อแบคที่เรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะ ยาปฏิชีวนะที่ใช้ทั่วไปจะไม่มีประสิทธิภาพในการรักษา ยาปฏิชีวนะที่สามารถกำจัดเชื้อดื้อยาได้นั้นมีเพียงไม่กี่ชนิด หลายตัวมีราคาแพงมากจนคนทั่วไปไม่สามารถหาซื้อได้ และหลายตัวมีผลข้างเคียงรุนแรงทำให้ตับวายไตวายและเสียชีวิตได้ นอกจากนี้เชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยานี้สามารถแพร่กระจายไปสู่บุคคลรอบข้างคุณ และคนในสังคมได้อีกด้วย
เชื้อดื้อยาเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะที่มากเกินไปหรือการใช้ที่ผิดวิธี ผู้ป่วยมักจะได้รับยาปฏิชีวนะจากแพทย์ หรือซื้อมาจากร้านขายยา หรือรับประทานยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น (เช่น ใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาโรคหวัดซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัส) การไม่มีมาตรการควบคุมการใช้ยาปฏิชีวนะที่เพียงพอจะทำให้ในอนาคตเราไม่สามารถรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียได้[1]
สามารถดูวีดีโอเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “การติดเชื้อดื้อยา” ได้ที่
ป้องกันการติดเชื้อดื้อยาในโรงพยาบาล (ผลิตโดย GPO Channel วันที่ 12/08/2559)
ติดเชื้อในกระแสเลือด คือ เชื้อที่ดื้อยา เราสามารถป้องกันได้ โดยการทำให้ร่างกายแข็งแรง (ผลิตโดย Sudawan Jandang วันที่ 03/11/2560)
เที่ยงเปิดประเด็น - สถานการณ์การติดเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ (ผลิตโดย ครอบครัวข่าว3 วันที่ 09/11/2557)
เอกสารอ้างอิง
1 WHO. (2015). Worldwide country situation analysis: Response to antimicrobial resistance. www.who.int. ISBN 978 92 4 156494 6